ขนมไม่ต้องใช้เตาอบ
วันนี้จะพาทุกคนไปทำขนม ซึ่งรวมไว้ 5 สูตร ขนมไม่ต้องใช้เตาอบ ทำเองได้ที่บ้าน และทำในช่วงเวลาว่าง ๆ อาจเป็นช่วงวันหยุดพักผ่อนทำกินกันเองในครอบครัวเพื่อสร้างความสัมพันธ์อันดีต่อกัน และยังให้ความอร่อยรับรองว่าถูกใจ ไปดูกันว่ามีขนมอะไรบ้าง ตามไปดูกันเลย
1. ช็อคโกแลตมูสเค้ก
สูตร ขนมไม่ต้องใช้เตาอบ ทำเองได้ที่บ้าน สูตรแรกที่แนะนำนั้นก็คือ ช็อคโกแลตมูสเค้ก ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย
ส่วนผสม
แป้งสาลีเอนกประสงค์ 25 กรัม คุกกี้โอริโอ้ 100 กรัม ผงโกโก้ 25 กรัม ดาร์กช็อคโกแลต 120 กรัม เนยละลาย 50 กรัม น้ำตาลทราย 60 กรัม วิปปิ้งครีม 500 มิลลิลิตร
วิธีทำ
1. นำคุกกี้โอรีโอ้มาแกะแยกครีมออก แล้วบดคุกกี้พอหยาบ ๆ หรือจะบดให้ละเอียดก็ได้ตามใจชอบ
2. นำเนยละลายมาเทลงในคุกกี้โอริโอ้ที่บดแล้ว คนให้เข้ากัน แล้วนำมาเทลงในพิมพ์ทรงกลมขนาด 1 ปอนด์ กดให้แน่น ๆ และเกลี่ยให้ทั่วพิมพ์ หลังจากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เซตตัว
3.เทวิปปิ้งครีม แป้งสาลีเอนกประสงค์ น้ำตาลทราย แล้วคนให้เข้ากัน นำไปตั้งไฟอ่อนคนให้เข้ากัน พักทิ้งไว้ให้เย็น
4.หลังจากนั้นนำดาร์กช็อคโกแลต มาคนให้เข้ากันจนละลายเป็นเนื้อเดียวกัน
5.นำมาเทลงในพิมพ์ที่มีคุกกี้โอริโอ้ แล้วเกลี่ยให้หน้าขนมเรียบ แล้วนำไปแช่ตู้เย็นให้ขนมเซ็ตตัวประมาณ 45 นาที
6.หลังจากที่ขนมเซ็ตตัวแล้ว เทออกจากพิมพ์ โรยผงโกโก้ไปที่หน้าเค้ก เพียงเท่านี้เราก็ได้ช็อคโกแลตมูสเค้กที่แสนอร่อยโดยไม่ต้องพึ่งเตาอบ ทำเองได้ที่บ้าน
2. คัสตาร์ดคาราเมล
สูตร ขนมไม่ต้องใช้เตาอบ ทำเองได้ที่บ้าน อีกสูตรที่แนะนำนั้นก็คือ คัสตาร์ดคาราเมล ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย
ส่วนผสม
นมจืด 250 กรัม น้ำตาลทราย 80 กรัม ไข่ไก่ 2 ฟอง น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1.เทน้ำตาลทราย 50 กรัมลงในกระทะ และน้ำเปล่า 2 ช้อนโต๊ะ เปิดไฟอ่อน เอียงกระทะไปมาให้น้ำตาลและน้ำเข้ากันจนเป็นคาราเมล โดยไ่ม่ต้องคน ปิดไฟ แล้วเติมน้ำเปล่าอุ่น ๆ ไปอีก 1 ช้อน เอียงกระทะไปมาให้คาราเมลและน้ำเข้ากันจนเป็นคาราเมล
2.เตรียมถ้วยแก้วหรือเซรามิคขนาดกลางถึงเล็กแล้วแต่ใครจะสะดวกแบบไหน ถ้าถ้วยเล็กก็ใช้ 2 ถ้วย แต่ถ้าขนาดกลางก็ใช้เพียงถ้วยเดียวก็พอ แล้วทาน้ำมันลงในถ้วย แล้วจึงนำเทคาราเมลใส่ก้นถ้วย พักทิ้งไว้
3.เทนมจืดใส่หม้อหรือกระทะ เติมน้ำตาลทรายที่เหลือลงไปตั้งไฟอ่อนคนให้น้ำตาลละลายและเข้ากับนมเมื่อนมและน้ำตาลเข้ากันแล้วและนมเดือดแล้ว พักทิ้งไว้
4.ตอกไข่ใส่ถ้วย แล้วนำน้ำนมที่เดือดนั้นทยอยเทลงไปในไข่ แล้วคนไข่ให้เข้ากันไปจนหมดน้ำนม หลังจากนั้นก็เทลงในถ้วยที่มีคาราเมลที่พักไว้ครั้งแรก แล้วปิดฝาถ้วยด้วยฟอยด์
5.หลังจากนั้นก็นำไปตั้งกระทะเพื่อนึ่งให้สุก เมื่อสุกแล้วก็นำขนมออกมาพักทิ้งไว้สักครู่ แล้วนำไปแช่ตู้เย็น 1-2 ชั่วโมง หลังจากนั้นก็นำมาเทลงในจาน เพียงเท่านี้ก็จะได้คัสตาร์ดคาราเมลที่อร่อย โดยไม่ต้องพึ่งเตาอบ
3. ขนมปังกรอบคาราเมล
สูตร ขนมไม่ต้องใช้เตาอบ ทำเองได้ที่บ้าน อีกสูตรที่แนะนำนั้นก็คือ ขนมปังกรอบคาราเมลไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย
ส่วนผสม
ขนมปังแผ่น 10 แผ่น เนยรสจืด 60 กรัม น้ำตาลทราย 70 กรัม นมสดรสจืด 2 ช้อนโต๊ะ เกลือป่น 1 หยิบมือ
วิธีทำ
1.นำขนมปังหั่นเป็นสี่เหลี่ยมลูกเต๋า ขนาดเล็กตามใจชอบ
2.นำขนมปังที่หั่นแล้วไปคั่วในกระทะด้วยไฟอ่อน ๆ จนขนมปังมีความกรุบกรอบ แล้วพักทิ้งไว้
3.เทน้ำตาลและเนยรสจืด เกลือ มาเคี่ยวในกระทะด้วยไฟเบา เมื่อน้ำตาลและเนยเข้ากันดีแล้วให้เติมนมสดรสจืดลงไป แล้วเคี่ยวต่อจนได้ที่ พักทิ้งไว้สักครู่ให้อุ่น ๆ
4.นำขนมปังที่เตรียมไว้แล้ว เทลงในคาราเมลและคนให้ทั่วขนมปัง เมื่อคนให้ทั่วแล้วเทขนมปังลงในถาดเกลี่ยออกและพักทิ้งไว้เซ็ตตัว เพียงเท่านี้เราก็จะได้ขนมปังกรุบกรอบคาราเมลที่แสนอร่อยโดยไม่ต้องใช้เตาอบ
4. บานอฟฟี่กล้วยหอม
สูตร ขนมไม่ต้องใช้เตาอบ ทำเองได้ที่บ้าน อีกสูตรที่แนะนำนั้นก็คือ บานอฟฟี่กล้วยหอม ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย
ส่วนผสม
บิสกิต หรือขนมแครกเกอร์ 200 กรัม เนยจืดละลาย 130 กรัม กล้วยหอม 4 ลูก น้ำตาลทราย 200 กรัม วิปปิ้งครีม 2 ถ้วยตวง เนยจืด 40 กรัม กลิ่นวานิลลา 1 ช้อนชา น้ำเปล่า 3 ช้อนโต๊ะ เกลือหนึ่งหยิบมือ
วิธีทำ
1.นำบิสกิตหรือแครกเกอร์มาบดแบบหยาบหรือละเอียดตามใจชอบ หลังจากนั้นเทเนยจืดที่ละลายแล้วลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน แล้วนำมาเทใส่ในพิมพ์ทรงกลมขนาด 2 ปอนด์ ใช้พิมพ์แบบถอดออกได้ กดทับให้แน่นและเกลี่ยให้เรียบ แล้วนำไปแช่ตู้เย็นช่องแช่แข็งเพื่อให้เซ็ตตัวประมาณ 30 นาที
2.ทำตัวซอสคาราเมลโดยเทน้ำเปล่า และน้ำตาลลงไป ใช้ไฟกลาง ระหว่างนี้ยังไม่ต้องคน รอจนกว่าน้ำตาลเริ่มออกสีเหลือง ให้คนต่อไปสักครู่ให้ได้สีเหลืองเข้มแต่ไม่เข้มมากเพราะถ้าเข้มมากคาราเมลจะมีรสชาติขม แล้วเติมวิปปิ้งครีมลงไป 1 ถ้วยตวง แบ่งใส่ทีละครึ่งแล้วคนให้เข้ากัน เมื่อเข้ากันแล้วปิดไฟ
3.ใส่กลิ่นวานิลลา เกลือ และเนยจืดลงไปคนให้เข้ากัน เราก็จะได้น้ำซอสคาราเมลแล้ว
4.เทซอสคาราเมลลงไปในพิมพ์ของบิสกิตบาง ๆ ให้ทั่วทับหน้าบิสกิต
5.ปอกเปลือกกล้วยหอมหั่นครึ่งหรือขนาดพอดีวางลงไปบนพิมพ์ ให้ทั่วทั้งพิมพ์ หลังจากนั้นเทซอสคาราเมลที่เหลือลงไปจนเต็ม ขยับพิมพ์ให้ซอส เกลี่ยให้ทั่วถึงกัน
6.เทวิปปิ้งครีม 1 ถ้วยตวงที่เหลือ (หรือจะใช้นมจืดแทนได้) จะใส่น้ำตาลหรือไม่ใส่ตามใจชอบ ตีให้ขึ้นฟองและตั้งยอดอ่อน นำไปเทลงในพิมพ์แล้วเกลี่ยให้ทั่วพิมพ์ หลังจากนั้นนำไปแช่ตู้เย็นให้เซ็ตตัวอีกประมาณ 30 นาที แล้วโรยด้วยผงโกโก้หรือกาแฟตามใจชอบ
นำออกจากพิมพ์และตัดเป็นชิ้นรับประทานได้เลย
5. โรตีกรอบ
สูตร ขนมไม่ต้องใช้เตาอบ ทำเองได้ที่บ้าน อีกสูตรที่แนะนำนั้นก็คือ โรตีกรอบ ไปดูส่วนผสมและวิธีทำกันเลย
ส่วนผสม
แป้งเค้ก 250 กรัม ไข่ไก่ 1 ฟอง นมข้นจืดหรือนมสดรสจืด 60 กรัม เนยสดจืดละลาย 2 ช้อนชา เนยสดจืดสำหรับหมักแป้ง 120 กรัม น้ำตาลทราย 2 ช้อนชา น้ำเปล่า 75 ml. เกลือ 1 หยิบมือ
วิธีทำ
1.ตอกไข่ใส่ชามผสม เทนมข้นจืดตามลงไป ตีให้เข้ากัน แล้วใส่เนยจืดละลาย 2 ช้อนชาตามลงไป ตามด้วยเกลือป่น น้ำตาลทรายตามลงไป คนให้เข้ากัน ใส่น้ำเปล่าตามลงไป คนให้เข้ากัน
2.หลังจากนั้นร่อนแป้งใส่ลงไป คนให้เข้ากันจนแป้งเหนียวหนืดได้ที่ แล้วพักแป้งไว้ประมาณ 10 นาทีปิดฝาไว้หรือแรปด้วยพลาสติกไว้
3.เมื่อครบเวลาแล้วนำแป้งออกมานวดคลึงเบา ๆ สักพัก โดยโรยแป้งใส่มือและโรยใส่ที่วางแป้งด้วยเพื่อไม่ให้แป้งติดมือและที่รองแป้ง หลังจากนั้น ทาเนยให้ทั่วชามผสม แล้วนำแป้งที่นวดแล้ววางลงไป และปิดฝาหรือแรปไว้ประมาณ 1 ชม.
4. หลังจากนั้นแล้วก็นำแป้งออกมาแบ่งเป็นก้อน ก้อนละประมาณ 50 – 60 กรัม แล้วนำเนยจืดมาผสมแล้วคลึงไปมาสักสามรอบ แล้วนำไปวางไว้ในชามผสม ทำแบบนี้ไปจนหมดแป้ง แล้วพักแป้งไว้อีกประมาณ 15 นาที
5.หลังจากนั้นนำเนยสดมาทาที่ถาดให้ทั่ว แล้วนำแป้งมาวางที่ถาดกดเบา ๆ ให้แป้งบางที่สุด แล้วยกแป้งจับหมุนรอบให้เป็นเกลียว แล้วพักแป้งไว้ประมาณ 15 นาที
6.หลังจากนั้นก็นำเนยมาทาที่ถาดให้ทั่ว วางแป้งลงไปในถาดแล้วกดเบา ๆ แผ่แป้งออกตามขนาดที่ต้องการ จากนั้นนำไปทอดในน้ำมันใช้ไฟกลาง ทอดจนกรอบ เพียงเท่านี้เราก็จะได้โรตีกรอบแสนอร่อย
เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 สูตร ขนมไม่ต้องใช้เตาอบ ทำเองได้ที่บ้าน โดยทำได้ง่ายมาก ๆ และอร่อยด้วย และเป็นขนมที่เราสามารถจะทำได้เองในวันหยุดพักผ่อน หรือจะชวนลูก ๆ หลาน ๆ และคนในครอบครัวมาช่วยกันทำก็ได้ เพื่อเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์อันดีต่อครอบครัวไปด้วยเลย ลองไปทำดูกับห้าเมนูขนมหวานที่ทำได้ง่าย ๆ รับรองจะติดใจ
เครดิตรูป
อ่านต่อที่ สูตรขนม